สลด! พลเมืองดีช่วยรถจอดเสีย โดนหกล้อพุ่งชนดับ

สลด! พลเมืองดีช่วยรถจอดเสีย โดนหกล้อพุ่งชนดับ

เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น.ของวันนี้​ (30 พ.ค.) ตำรวจบางบัวทองได้รับแจ้งเหตุคนถูกรถบรรทุกหกล้อชนเสียชีวิตบนถ.กาญจนาภิเษก ด้านขาออกบนสะพานข้ามคลองลำรี จ.นนทบุรี ทราบชื่อคือ นายสมพงษ์ ฮวดศรี อายุ 38 ปี ซึ่งก่อนเกิดเหตุได้ลงไปช่วยรถกระบะที่จอดเสียอยู่ข้างทาง

โดยนายพิเนตร สารวัฒน์ตรานนท์ อายุ 35 ปี คนขับรถกระบะ 

เล่าว่า รถของตนจอดเสียอยู่ตรงที่เกิดเหตุ โดยมีญาตินำรถเก๋งโตโยต้า รุ่นอินโนว่า มาเปิดไฟกะพริบอยู่ด้านท้ายรถยนต์กระบะ นายสมพงษ์ซึ่งเป็นพลเมืองดี ขับรถตู้มาเห็นจึงลงมาช่วยผูกรถยนต์กระบะเพื่อที่จะลากรถออกจากถนนลงไหล่ทาง แต่รถหกล้อขับมาชนท้ายรถที่จอดต่อกันอยู่ขณะที่นายสมพงษ์กำลังผูกเชือกอยู่หน้ารถกระบะทำให้ถูกอัดกับรถตู้เสียชีวิต

ด้านนายอมรชัย ทรมน้อย อายุ 37 ปี คนขับรถหกล้อเล่าว่าตนเองขับมาทางเลยซ้าย มุ่งหน้าจ.สุพรรณบุรี ด้วยความเร็ว 70 กม./ชม. และไม่เห็นรถที่จอดอยู่เพราะบริเวณนั้นมืด จึงชนท้ายรถยนต์โตโยต้า อินโนว่าและทำให้รถคันดังกล่าวไปชนรถกระบะและรถตู้ด้านหน้าต่อจนมีผู้เสียชีวิต โดยนายอมรชัยถูกนำตัวไปสอบสวนต่อที่สภ.บางบัวทอง ก่อนจะมีการแจ้งข้อกล่าวหา ส่วนร่างของนายสมพงษ์ถูกส่งไปชันสูตรที่รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติรังสิต

เมื่อพูดถึงเรื่องสมาร์ทโฟน นอกจากสเปคที่ทางผู้ผลิตใส่มาให้เพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่ลื่นไหลไม่มีสะดุดแล้ว แน่นอนว่าเรื่องของกล้อง ก็เป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่ทางผู้ผลิตต่างให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะกล้อง เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญต่อการตัดสินใจซื้อ นั่นจึงทำให้ในช่วงหลายปีมานี้ บริษัทผู้ผลิตมือถือ ต่างหันมาให้ความสำคัญในเรื่องนี้มากเป็นพิเศษ และนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดที่ตนมี ซึ่งต่างคนต่างเคลมว่ากล้องตนดีที่สุด แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้น หากกล้องสมาร์ทโฟนของคุณไม่ได้ถูกจัดอันดับใน DxOMark เว็ปไซต์รีวิวกล้องชื่อดังที่รีวิวกล้องมือถือและกล้องระดับโปร ทุกรุ่น ทุกยี้ห้อ และมีความน่าเชื่อถือมาที่สุด ณ ตอนนี้ ดังนั้น เราจะไปดูกันว่า 10 อันดับสุดยอดกล้องสมาร์ทโฟนตอนนี้ มีอะไรบ้าง จัดอันดับโดยเว็ปไซต์ DxOMark

เริ่มกันที่อันดับ 10 HTC U12+ หลายคนคงเคยได้ยินชื่อแบรนด์นี้มานาน และอาจคิดว่าแบรนด์นี้ไม่มีแล้ว ป่าวครับ เขายังมีตัวตนอยู่ แต่ไม่ค่อยได้มาทำการตลาดในบ้านเราหนักแบบเมื่อก่อน HTC U12+ ทำคะแนนกล้องโดยรวมไปถึง 103 คะแนน

ตร.ปคม.ร่วมตำรวจเมืองภูเก็ต ตามจับได้แล้วผู้ต้องหาค้ากามเด็ก หลังหลบหนีไม่มาศาลตามกำหนด

เมื่อวานนี้ ( 29 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคม.นำโดย ร.ต.อ.ประยุทธ สอนสวาท สว.กก.5 บก.ปคม.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต นำโดย พ.ต.ต.หาญศึก ศรีทันต์ สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต และกำลังเจ้าหน้าที่ ได้ร่วมกันจับกุมนายศุภชาติ จิรวัฒนานุกูล อายุ 47 ปี บ้านเลขที่ 117/1 ม.5 ต.กล้วยแพะ อ.เมือง จ.ลำปาง ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 142/2561 ลงวันที่ 13 มาคม 2561 ข้อหากระทำความผิดฐาน พรบ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พรบ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี (หลบหนีไม่มาศาลตามกำหนด) โดยจับได้ที่บริเวณหน้าร้านป้าอิส มาดัง ถนนมหาราช ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่

สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 23 มี.ค.2560 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจสาคู สืบสวนทราบ ว่า ที่ร้านเดอะริช นวดแผนโบราณ เลขที่ 106/1 หมู่ที่ 1 ต.สาคู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต มีการนำเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี มาแสวงหาประโยชน์ จากการค้าประเวณี เจ้าหน้าที่ตำรวจข้างต้นจึงได้ร่วมกันวางแผนทำการสืบสวน ล่อซื้อโดยทำทีเป็นลูกค้าเข้าไปขอใช้บริการจากร้านดังกล่าว

แต่ไม่สามารถดำเนินการจับกุมได้เนื่องจากไม่พบเป้าหมาย แต่จากการสืบสวนเชื่อแน่ว่าได้มีการกระทำความผิดดังกล่าวจริง ต่อมาเมื่อวันที่ 24 มี.ค.60 จึงได้ร่วมกันวางแผนจับกุมอีกครั้ง ได้ให้สายลับ และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำทีเป็นลูกค้าเข้าไปใช้บริการในร้านเดอะริช นวดแผนโบราณ ซึ่งจากการเข้าไปในร้ายพบว่ามีนายศุภชาติ จิรวัฒนานุกูล ซึ่งทราบชื่อภายหลัง ได้ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแล โดยนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานภายในร้านดังกล่าว และ นายศุภชาติฯ ได้เดินเข้ามาหาสายลับ และ แนะนำพนักงานภายในร้านดังกล่าวให้ พร้อมพวก ซึ่งขณะนั้นมีพนักงานหญิง จำนวน 3 คน นั่งอยู่ที่โต๊ะรับแขกภายในร้านดังกล่าว ซึ่งนายศุภชาติฯ ได้เชียร์สายลับใช้บริการทางเพศแบบชั่วคราวกับพนักงานในร้านที่นั่งอยู่

โดยเสนอการบริการทางเพศแบบชั่วคราวในราคา 1,500 บาท ต่อการใช้บริการ 1 ครั้ง นานไม่เกิน 1 ชั่วโมง จากนั้นสายลับ จึงได้ตกลงและเลือกใช้บริการทางเพศเพื่อหลับนอนกับ น.ส.ชม (นามสมมุติ) เหยื่อผู้เสียหาย โดยมอบเงินค่าตัวเด็กจำนวน 1,500 บาท ให้แก่นายศุภชาติฯ ผู้ต้องหา จากนั้นสายลับได้ส่งสัญญาณ ให้เจ้าหน้าที่ ร่วมกันเข้าไปตรวจสอบและจับกุม นายศุภชาติฯ เบื้องต้นผู้ต้องหายอมจำนนต่อหลักฐาน พร้อมนำตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย

โดยในส่วนของตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้แต่งตั้งคณะทำงานในคดีนี้ โดยมี พ.ต.อ.วิทูรย์ กองสุดใจ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน ขณะนี้ได้มีการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งในส่วนของโรงานผลิตและผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ ไปบางส่วนแล้ว ส่วนตัวของผู้ต้องหาทั้งชาวต่างชาติและภรรยาคนไทยนั้น จากการติดตามตัวพบว่ามีการเคลื่อนไหวครั้งสุดท้ายเมื่อเร็วๆนี้ ที่เกาะตะรูเตา จ.สตูล และเชื่อมั่นว่าทั้งสองคนจะอยู่ด้วยกัน และยังไม่ได้เดินทางออกนอกประเทศแต่อย่างใด ขณะนี้อยู่ระหว่างการบูรณาการกับหน่วยงานต่างๆ ในการติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป